กำเนิดเจ็ดหวดเจ็ดไห กำเนิดเจ็ดหวดเจ็ดไห หมู่บ้านหม่องนึง ให้ซือว่า บ้าน...บ้านอีหยังดีล่ะ...บ้านอีหยังกะซางเถาะเนาะ หมู่บ้านนั่นล่ะ มีเศรษฐีสองผัวเมียคู่นึงเด้ อยู่นำกันมาตั้งวะดน กะบ่ได้ลูกจ๊ากคน เลยไปบวงสรวงขอกับเทวดานำต้นไม้ ต่อมาอีกบ่ดนบ่นาน กะได้ลูกซายผู้นึง สองผัวเมียกะเลี้ยงดูอย่างดีว่าซั่นเถาะ แต่ว่า เด็กน้อยผู้นี้ มันแปลกกว่าผู้อื่นกะคือ มันกินจุ กินโป่ม กินโผ่ (กินหลายนั่นล่ะ) นมแม่กะดูดเอาดูดเอา จนนมแม่บ่พอ กะได้ไปหานมงัวมาตื่มให้เด้เดียวหนิจั่งอิ่ม เลี้ยงบ่ทันพอคราว กะใหญ่เอ้าใหญ่เอา แฮ่งใหญ่แฮ่งกินหลาย ขนาดอายุแค่ปีเดียว กินข้าวเหมิดเทื่อละเจ็ดหวดพุ่นน่ะ กินหลายคักปานนี่ เศรษฐีกะเศรษฐีเถาะเว่ย บ่ทันโดนเงินทองข้าวของที่สะสมไว้กะหร่อยหรอ หน่อยลง ๆ อาหารดี ๆ สิกินกะเริ่มหายาก ออกไปหาปูหาปลาเอง กะได้มาบ่พอให้ลูกกิน (บ่พอซะแตก) เศรษฐีกะเอาเงินที่เหลือก้อนสุดท้ายไปซื้อปลามาบักหลายเกวียน เอามาเฮ็ดปลาแดกเก็บไว้ให้ลูกกิน ลูกซายกินข้าวกับปลาแดกแต่ละคาบ เหมิดข้าวเจ็ดหวด เหมิดปลาแดกเจ็ดไห กะเลยได้ซื่อว่า “ บักเจ็ดหวดเจ็ดไห ” หรือเอิ้นสัน ๆ ว่า “ บักเจ็ดไห ” ..... แอ่น...แอ้น...แอ๊น.... เจ็ดไหแบกต้นไม้ จากคนรวย ๆ บ่ดน กะจนลง ๆ เศรษฐีกะเลยคึดว่า “ คันบ่มีบักเจ็ดหวดเจ็ดไห กะคือสิบ่เป็นจั่งซี้ คันมันยังอยู่หนี่ต่อไป สิเอาหยังเลี้ยงมัน สิเอาหยังให้มันกิน .... บ๋า... คันสิฆ่ามันตรง ๆ เดี๋ยวไทบ้านกะสิว่าเฮา ...บ๋า... ต้องให้มันตายแบบอุบัติเหตุ” พอคึดได้ กะเลยซวนบักเจ็ดหวดเจ็ดไหไปป่า ตัดต้นไม้มาเอ็ดเฮียน พะนะว่า พอไปฮอดต้นไม้ใหญ่ในป่าแล้ว พ่อกะบอกว่า “ คันต้นไม้กำลังสิล้มลง ให้มึงแล่นไปเอาบ่าฮับเอาเด้อ มันจั่งสิแบกเมือบ้านง่าย” ว่าซั่น แล้วกะลงมือตัด พอต้นไม้กำลังสิล้ม บักเจ็ดหวดเจ็ดไหกะฟ้าวแล่นไปเอาบ่าฮับไว้ เสียงต้นไม้ล้มดังสนั่นหวั่นไหว แผ่นดินสะเทือน ดินแห้งแถวนั่นไงง่องเลยแหล่ว บักเจ็ดหวดเจ็ดไห ถืกต้นไม้ทับจมมิดลงไปในดินบ่เห็นฮอดหัว.... พ่อกะเว่าค่อย ๆ ว่า.. "เฮ้อ...เหมิดเวรเหมิดกรรม.. อโหสิให้พ่อแหน่เด้อลูก” เลา เข้าใจว่าบักเจ็ดหวดเจ็ดไหตายแล้ว กะเลยย่างกลับบ้าน ไปบอกเมีย บอกซาวบ้านว่า บักเจ็ดหวดเจ็ดไห ถืกต้นไม้ล้มทับตายแล้ว ศพอยู่ใต้ขอนไม้ใหญ่เอามาบ่ได้ ... พะนะว่า ฝ่ายบักเจ็ดหวดเจ็ดไห จมอยู่ในดิน สลบไปหน่อยนึง พอฟื้นขึ้นมา กะเอามือซุกยู่ ขอนไม้ใหญ่ออก แล้วกะปีนขึ้นจากดิน เหลียวหาพ่อบ่เห็น จำได้แต่ว่า พ่อสิเอาต้นไม้ไปเฮ็ดเฮียน กะเลยแบกต้นไม้ใหญ่ต้นนั่นกลับบ้าน แบกไปเหมิดเทิงใบเทิ่งง่า เด้เดียวหนิ แบกไปฮอดบ้าน กะฮ้องถามพ่อว่า “ พ่อ..พ่อ.. เอาต้นไม้ต้นนี่วางไว้ไส ” พ่อกะตกใจแหล่วเนาะ เข้าใจว่าลูกตายแล้ว ... ที่ไหนได้ มันยังบ่ทันตายตั้วหนิ.... “ โฮ้ย..มึงแบกเข้ามาเฮ็ดอีหยัง มันบ่มีหม่องไว้เด้..ไป..ไป แบกออกไปถิ่มไว้นอกท่งพุ่นไป” บักเจ็ดหวดเจ็ดไห กะเลยแบกออกไปวางถิ่มไว้ท่ง.. แล้วแล้ว.. กลับมาบ้าน อาบน้ำอาบท่า กินข้าว เหมิดไปอีก เจ็ดหวด กับปลาแดกอีก เจ็ดไห ... เจ็ดไหปราบเสือ มื้อต่อมา พ่อของบักเจ็ดหวดเจ็ดไหกะพยายามวางแผนสิให้บักเจ็ดหวดเจ็ดไหตาย …. ในที่สุดกะคึดแผนออก.... พ่อไปหาแมวน้อยมาให้บักเจ็ดหวดเจ็ดไหเลี้ยง เลี้ยงไปเลี้ยงมา เจ็ดหวดเจ็ดไหกะฮักแมว แต่ว่าอยากได้แมวที่โตใหญ่ ๆ กว่านี้ กะเลยถามพ่อว่า “ พ่อ ข้อยอยากได้แมวที่มันโตใหญ่ ๆ ก่อนี้ สิได้เอามาขี่เล่น พ่อหามาให้ข้อยแหน่” พ่อเลยบอกว่าแมวโตใหญ่ ๆ น่ะมันอยู่ในป่าเลิ่ก ๆ เดี๋ยวพ่อสิพาไปจับเอา สองพ่อลูกกะพากันเข้าป่า ไปหาดงเสือ..เด้ตาทีเนี่ย ... พอไปฮอดแถว ๆ ดงที่เสืออยู่ พ่อกะบอกว่า ให้แยกกันหา พอแยกกันได้จักหน่อย พ่อกะย่างกลับบ้าน ปล่อยให้บักเจ็ดหวดเจ็ดไห ย่างเลาะหาแมวใหญ่อยู่ในดงผู้เดียว คึดว่าเดี๋ยวมันพ้อเสือ เสือกะสิกัดมันตายอยู่ในป่า ดงเสือเนาะ เสือกะหลายแหล่วเว่ย ...เจ็ดหวดเจ็ดไหเห็นเสือ กะเข้าใจว่า เป็นแมวใหญ่ ดีใจอย่างคัก สิได้แมวใหญ่ไปเลี้ยง กะย่างเข้าไปสิจับเอา เสือกะเก่งพอเสือเนาะ มันบ่ยอมให้จับมักง่ายแหล่ว มีแต่มันสิกัดกินเป็นอาหารนั่นแหล่ว กะเกิดการต่อสู้กันตั้ว บาดทีเนี่ย … มะลึงตึ่งตั่ง.. มะลึงตึ่งตั่ง..ๆ ๆ ๆ ๆ ( เสียงต่อสู้กันเด้อนี่) สู้กันไปสู้กันมา เสือกะสู้บักเจ็ดหวดเจ็ดไหบ่ได้ ยอมให้ขี่แต่โดยดี พอปราบเสือได้แล้ว เจ็ดหวดเจ็ดไหกะขี่เสือโตบักใหญ่กลับบ้าน เสือมันกะฮ้องไปนำ ย่างไปนำ ไทบ้านได้ยินเสียงเสือกะพากันย่าน หนีลี้เทิงเฮือน พวกหมูเห็ดเป็ดไก่ งัว คว(า)ย กะพากันตื่นย่าน ทะยานเต้นตำฝา ซั่นแหลว บางโตหลูดออกได้ หนีไปในป่า ไทบ้านพากันเดือดฮ้อน ย่อน แมวเลี้ยงบักเจ็ดไห . . เพิ่นว่า.. ขี่เสือมาฮอดบ้านแล้ว กะฮ้องหาพ่อว่า “ พ่อ..พ่อ.. ข้อยได้แมวใหญ่มาแล้ว โตใหญ่ๆ จั่งซี้นะแมะ จั่งเป็นตาเลี้ยง โตน้อยๆ มันขี่บ่ได้” พ่อกะตะลึงแหล่วเนาะ .. .เอ๊า...คึดว่ามันตายแล้ว มันยังบ่ทันตายอีกตั้วหนิ ..แฮงจับเสือมาพร้อม สิเอาหยังกินล่ะบาดตาเนียะ... กะบอกบักเจ็ดหวดเจ็ดไห ให้เอาเสือไปปล่อยคืนป่าหม่องเก่า เพราะว่าไทบ้านย่าน สัตว์เลี้ยงกะย่าน... เจ็ดหวดเจ็ดไห กะเลยเอาเสือไปปล่อยเข้าป่า ซั่นแหล่ว เจ็ดไหพเนจร แผนหนึ่งกะแล้ว แผนสองกะแล้ว มันกะยังบ่ตาย เอ..เฮ็ดจั่งได๋ต่อดีหว่า... คึดแผนฆ่าบ่ ออกแล้ว ในที่สุดกะเลยเว้ากับลูกตรง ๆ ว่า “ พ่อแม่น่ะ บ่มีแนวสิเลี้ยงลูกแล้ว คันลูกอยู่หนี่ต่อไป กะสิพากันอดตายเหมิด ให้ลูกออกเดินทางไปเสี่ยงโชค เสี่ยงชะตาเอาเองเด้อ แนวอยู่แนวกิน กะหาอยู่หากินเอาเองเด้อ” เสียงพ่อบอกลูกน้อยเจ็ดไห ให้หนีจาก ให้หนีไปห่างบ้าน เฮือนซานหม่องอยู่เซา คันบ่หนีไกลบ้าน ภัยพานสิมาฮ่วม น้ำสิท่วม ฝนสิแล้ง คำแพงหล่า เซื่อพ่อเด้อ...ไป..ไป..ให้ฟ้าวออกเดินทาง... บาคานท้าวเจ็ดไหเจ็ดขวบ อำลาพ่อแม่แล้ว จรด้นเดินดง ซั่นแหล่ว... เป็นตาหลูโตนซาด เจ็ดหวดเจ็ดไห ย่อนว่าโตกินหลาย โผดเป็นลิงในดงด้าว.... เจ็ดหวดเจ็ดไห กะเลยออกเดินทางร่อนเร่พเนจร ไปเสี่ยงโชคตามคำของพ่อ เดินทางไป หิวข้าวไป หาผัก หาผลไม้ หมากต้องแล่ง หมากก้นคก หมากตีนตั่ง กินกะบ่พอสิอิ่มท้องย่อน (คอบว่ามีแต่หน่วยน้อยๆ) พ้อต้นเขียง กะดึงกินฮากเขียง พ้อหน่อเพ็ก กะถอนหน่อเพ็กมากิน พ้อต้นหมากสีดา กะปีนขึ้นเก็บกินจนเหมิดต้น กะบ่เคิงท้อง พ้อต้นหมากทัน ขึ้นซั่นลงมากินจนเหมิดต้น กะบ่อิ่ม คิดฮอดบ้าน ฮอดพ่อ ฮอดแม่ สิกลับไปกะบ่ได้ จั่งได๋กะได้ออกมาแล้ว ต้องเดินหน้าต่อไปอย่างเดียว ตายเป็นตาย ยังเป็นยัง ..... บักร้อยไผ่ กล่าวเถิงบาคานท้าวนามว่ า ร้อยไผ่ แฮงกะหลาย โตกะใหญ่ เทิงกินโป่มพร้อม คือด้ามดั่งกัน นั่นแหล่ว... อยู่หมู่บ้านอีกบ่อนนึง มีเด็กน้อยอีกผู้นึง โตใหญ่ปานผู้ใหญ่ กินกะหลาย แฮงกะหลายคัก ...คนเหมิดบ้านรวมเทิงผู้ใหญ่ (บ่แมนผู้ใหญ่บ้านเด้อ) บ่มีไผสู้แฮงมันได้ … มีช่วงนึง ...ไทบ้านอยากลองกำลังของมัน เอาคร่าว(เซือกหนัง) มาเล่นดึงชักกะเย่อกัน กับคนเหมิดบ้าน ทีแรก คร่าวขาด เทื่อทีสองเปลี่ยนคร่าวใหม่เป็นคร่าวร้อยเส้น แล้วกะลองดึงใหม่ ไทบ้านดึงสู้มันบ่ได้ กะยังว้า กะยังว่า... นั่นล่ะ บักอั่นนี้ แฮงมันหลายคัก พ่อแม่กะมักสิให้มันไปตัดไม้ไผ่มาขาย มันไปตัดแต่ละเทื่อ ลากมาได้เทื่อละเป็น ๑๐๐ กอ เด้เดียวหนิ คนกะเลยมักสิเอิ่นมันว่า “ บักไผ่ร้อยกอ ” “ บักร้อยกอ ” หรือ “ บักร้อยไผ่ ” ทั้งเหมิดนี่ ฉายามันทั้งนั่นล่ะ ชนะร้อยไผ่ มื้อนึง บักร้อยไผ่ กะเข้าป่าไปดงไผ่ ตัดไม้ไผ่ได้ร้อยกอ แล้วกะมัดรวมกัน ต่อกันเป็นทอดๆ แล้วกะดึงลากกลับบ้าน ตะด้าด..ตะด้าด..ๆ..ๆ..ๆ..ๆ.. พอดีบักเจ็ดหวดเจ็ดไห ย่างมาเห็นทางส้นปลายไผ่ เห็นไม้ไผ่ถืกลากไป ซะ..ซะ .. เหลียวเบิ่งไปทางหน้า กะบ่เห็นผู้ได๋ เห็นแต่ไม้ไผ่ต่อกันยาวบักขนาด กะสงสัยว่า “ ปาดทิโท..แมนผู้ได๋ ซัมมาแฮงหลายคักแท้ ” กะเลยย่างเข้าไปเอาตีนเหยียบปลายไม้ไผ่ไว้ ….ซั่มนั่นล่ะ บักร้อยไผ่ลากไปอยู่ดีดี กะหยุดจ่ะวะนึง “ เอ๋..มันคาหยังวะ ” แล้วกะออกแฮงเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น... ดึงจั่งได๋กะบ่ไป กะสงสัยว่า อาจสิมีอีหยังมาข้องมาคาไว้ เลยแล่นเลาะหาเบิ่ง จนมาฮอดปลายทางหลังสุด กะเห็นบักเจ็ดหวดเจ็ดไห เอาตีนเหยียบไว้ กะฮ้องถามว่า “ เฮ้ย..เฮ้ย..โตเป็นไผ ใหญ่มาจากไส จั่งกล้าเอาตีนมาเหยียบไม่ไผ่เฮา ..หา..มึงฮู้บ่ ว่ากูเป็นผู้ได๋” เว้าไปนำตบเอิ่กไปนำ เปะ เปะ พุ่นแหล่ว “ เอ๋า..ไผสิฮู้ ว่าเป็นไม้ไผ่ไผ ไผสิฮู้ว่าโตเป็นไผ... อยากฮู้จักนั่นล่ะ จั่งเหยียบ” บักเจ็ดหวดเจ็ดไหว่า “ มึงฮู้จักกูหน่อยเกินไปแล้ว ... เอาตีนออกจากไม่ไผกูเดียวนี่” บักร้อยไผ่ออกคำสั่ง บักเจ็ดหวดเจ็ดไห กะเสย ... ยืนเส้ย บักร้อยไผ่สูน กะเลยย่างเข้าไป เอามือจับแขนบักเจ็ดไห สิดึงกระชากออกมา บักเจ็ดไหกะกึงแขนไว้ แล้วกะสะบัดเคิงแฮง (บ่เฮ็ดเหมิดแฮงนั่นหนา) บักร้อยไผ่เซถลาออกไป.... แล้วกะเข้ามาสู้กันใหม่ อีหมะลุ่งตุ่งนัง..อีหมะลุ่งตุ่งนัง..ๆ ๆ ๆ !!! ???!!! สู้กันไปสู้กันมา (ปล้ำกันนั่นล่ะว๋า) ในที่สุดบักเจ็ดไหกะอยู่ทางเทิง เอาดากนั่งทับเอิ่ก สองขาเหยียบแขนบักร้อยไผ่ไว้ สองมือกอดเอิ่กเว้าว่า “ เป็นจั่งได๋..ยอมแพ้ไป่ ?” “ ยอมแล้ว..ยอมแพ้แล้ว..ผู้พี่ซื่อว่าจั่งได๋ ” “ เฮาซื่อว่า เจ็ดหวดเจ็ดไห... เอิ่นเฮาว่า เจ็ดไห กะได้.. แล้วโตล่ะซื่อว่าจั่งได๋” “ ผู้น้องซื่อว่า ไผ่ร้อยกอ..เอิ่นผู้น้องว่า ร้อยไผ่ กะได้” ถามซื่อเสียงเรียงนามกันแล้ว ทั้งสองคนกะตกลงเป็นพี่เป็นน้องกัน เจ็ดหวดเจ็ดไหกะบอกว่า สิเดินทางไปผจญภัย แสวงโชค สิไปนำบ่ บักร้อยไผ่กะตัดสินใจไปนำ เอาไม้ไผ่ไปส่งพ่อแม่แล้ว กะลาพ่อแม่ออกเดินทาง ไปกับบักเจ็ดไห โดยบ่มีจุดหมายปลายทาง บักร้อยเกวียน ฮอดบ่อนบั้น บาคานเกวียนร้อยเล่ม นับคนเหมิดหมู่บ้าน บาคานน้อย แฮงหลายเลิศ ก่อผู้ได๋ แท้เด้.. อยู่หมู่บ้านอีกบ่อนนึง มีเด็กน้อยอีกผู้นึง กินหลาย ใหญ่ไว แฮงกะหลายคัก แต่ผัดย่างได้ย่างเป็น มันกะเริ่มใช้แฮงหลายๆ ของมันให้เป็นประโยชน์กับชาวบ้าน ซ่อยซาวบ้านยกขอนไม้ เอาเสาลงหลุม ฯลฯ... คือว่า งานอีหยังที่ต้องใช้แฮงหลายๆ ชาวบ้านกะมักสิเอิ่นมันมาซ่อยว่าซั่นเถาะ แฮ่งใหญ่ขึ้น แฮงกะแฮ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ... ชาวบ้านกะเคยทดลองกำลังมันคือกัน แล้วกะสู้มันบ่ได้คือกัน กะเลยยกให้มัน เป็นผู้มีแฮงหลายที่สุดในหมู่บ้าน มันซ่อยงานพ่อแม่ดีคักยุ โดยมากพ่อแม่สิให้มัน รับจ้างเอาเกวียนลาก(บรรทุก)ของ หรือฮาลังเทื่อ กะเอาของใส่เกวียน ลากไปขายเมืองอื่น ใช้แฮงบักอั่นนี่แล้ว บ่ต้องใช้งัว ใช้คว(า)ย เลยว่านเถาะไป๋... ลากแต่ล่ะเทื่อ กะได้ตั้งวะ ๑๐๐ เล่ม คนเลยมักเอิ่นมันว่า “ บักเกวียนร้อยเล่ม ” “ บักร้อยเล่มเกวียน ” (บ่แมน มายา เด้อ) “ บักร้อยเกวียน ” ... เทิงเหมิดนี่ เป็นฉายามันล่ะ... ชนะร้อยเกวียน มื้อนึง บักร้อยเกวียน ลากเกวียนบรรทุกเกลือไปส่งพ่อค้าเรียบร้อยแล้ว กะลากเกวียนเปล่ากลับบ้าน พอดีบักเจ็ดไหกับบักร้อยไผ่ ย่างมาเห็นเกวียนเล่มสุดท้าย กะสงสัยว่า “ โฮ้ ..เกวียนผู้ได๋ซัมมาหลายคักแท้.. ผู้ได๋ซัมหมะแฮงหลายคักแท้ ” บักเจ็ดไหกะเลยให้บักร้อยไผ่ไปดึงเกวียนไว้ เกวียนกะหยุดจ่ะ!!..วะนึง .. บักร้อยเกวียน เพิ่มแฮงขึ้น..เพิ่มขึ้น.. จนเต็มแฮง กะลากไปบ่ได้ กะเลยแล่นกลับมาทางหลัง หาเบิ่งว่า เกวียนมันข้องมันคาอีหยัง ในที่สุด กะมาพ้อบักร้อยไผ่ เอามือจับเกวียนเล่มสุดท้ายไว้.. กะหมึนบักใหญ่แหล่วเลากะดาย.. “ ปาดทิโท!!! ..มึงแม่นไผ บังอาจมาดึงเกวียนกูไว้ มึงฮูจักกูหน่อยไปซะแล้ว” ว่าแล้วกะย่างอาดอาดเข้าไป เอามือจับแขนบักร้อยไผ่ สิดึงมันเข้ามากอดคอตีเข่า... บักร้อยไผ่ กะสะบัดแขน เอามือจับแขนบักร้อยเกวียน ฟึดไปเคิ่งแฮง บักร้อยเกวียน กะเสียหลักเซถลาออกไป พอตั้งหลักได้ กะกลับเข้ามาต่อสู้กันใหม่ ตะลุ่งตุ่งนัง..ตะลุ่งตุ่งนัง.. ๆ ๆ ๆ ๆ ..ตึบ!! สู้กันไปสู้กันมา ป้ำกันไปป้ำกันมา ในที่สุดบักร้อยเกวียน กะไปอยู่ทางล่าง บักร้อยไผ่อยู่ทางเทิง เอาดากนั่งทับเอิ่ก เอาตีนเหยียบแขนไว้ สองมือกอดเอิ่ก เว้าว่า “ เป็นจั่งได๋ ยอมแพ้บ่ ” “ ยอมแพ้แล้ว..ยอมแพ้แล้ว ” บักร้อยไผ่เลยลุกออก เอามือดึงแขนบักร้อยเกวียนลุกขึ้น ต่างคนต่างปัดโต ปัดก้น ปัดขี้ฝุ่นออกนั่นล่ะ แล้วบักร้อยเกวียนเลยเว้าว่า “ ผู้น้องซื่อว่า เกวียนร้อยเล่ม เอิ่นว่า ร้อยเกวียน กะได้ ผู้พี่ซื่อว่าจั่งได๋” “ เฮาซื่อว่า ไผ่ร้อยกอ เอิ่นเฮาว่า ร้อยไผ่ กะได้...นี่นี่ เฮายังมีผู้พี่อีกผู้นึง ซื่อว่า เจ็ดหวดเจ็ดไห เอิ่นว่า เจ็ดไห กะได้” ทั้งสามคน กะเลยสาบานเป็นพี่เป็นน้องกัน บักเจ็ดไหเป็นพี่ใหญ่ บักร้อยไผ่เป็นน้องรอง บักร้อยเกวียนเป็นน้องสาม (พี่ใหญ่ น้องรอง น้องสาม.. บู๊ยยยย... ปานหนังจีนเอาโลดเด้เดียวเนี่ย..) เจ็ดไหกับร้อยไผ่ กะซวนร้อยเกวียนออกเดินทางผจญภัย แสวงโชค นำกัน บักร้อยเกวียนกะตกลง … พอเอาเกวียนไปส่งพ่อแม่ ลาพ่อแม่แล้ว ทั้งสามคน กะออกเดินทางผจญภัยต่อไป.. บาคานท้าว บาคานน้อยอ่อน สาบานเป็นพี่น้อง สามท้าวเข้าเดินดง ซั่นแหล่ว... จิ๊นายยักษ์ บาคานน้อย สามคนพร้อมพร่ำ ยุรยาตรย้าย ดุ่มด้นเดินดง หลงทางแท้ บ่มีไผสิซี้บอก ซอกหลืบถ้ำ นอนลี้ก่อมกัน... ผลหมากไม้ เก็บสู่กันกิน จนว่าเหมิดพงไพร ย่อนบาคานกินโพด แท้แหลว.... ลุมาเถิงดงกว้าง เขตป่าดงดิบ มีแต่สัตว์โตใหญ่ยักษ์ อันตรายภายพื้น แมงมุมนั่น โตใหญ่คักหลาย ซ่ำซ้างพลายใหญ่คัก ย่างกะดงกะเดงเต้น กลางเว็นแท้ มีแต่แนวหลอนหลอก อยากออกจากป่ากว้าง สู่เมืองบ้านมนุษย์คน แท้น้อ...... (พอล่ะ ขี้คร้านแต่ง) สามพี่น้อง เดินทางบุกป่าฝ่าดง ขึ้นเขาข้ามห้วยไปเรื่อยๆ พ้อต้นหมากไม้ที่กินได้ กะปีนขึ้นเก็บกินจนเหมิดต้น กินต้นได๋กะเหมิดต้นนั่น ปานนั่นยังบ่พากันอิ่ม ย่างไป หากินไปเรื่อยๆ จนเข้าเขตป่าดงดิบ ในป่านั่น สัตว์กะมีแต่โตใหญ่ๆ ต้นไม้กะมีแต่ต้นใหญ่ๆ ใบใหญ่ๆ ขนาดแมงมุมยังโตซ่ำซ้าง สามคนพากันย่างไปพ้อแมงมุมยักษ์ กะเกิดการต่อสู้กันตี้บาดทีเนียะ บักเจ็ดหวดเจ็ดไห เต๋ปาดเดียว ขาแมงมุมขาดโจ่ด เด็นไปไกลๆ ค้างอยู่เทิงง่าไม้ใหญ่ แมงมุมเห็นว่าสู้บ่ได้เลยถอยหนี ย่างไปย่างมา กะมาพ้อ จิ๊นายยักษ์ ใหญ่โตนึง ทั้งสามคนกะซ่อยกันไล่จับ สิเอามาจี่กิน จิ๊นายยักษ์กระโดดเทื่อนึง ไปไกลเป็นเคิงกิโล สามคนกะแล่น กะโดดนำ ไล่คุมกันไป จนจิ๊นายหนีไปฮอดฮูมัน แล่นเข้าฮูปับวะนึง จิ๊นายมันโตใหญ่เนาะ ฮูมันกะใหญ่นำแหล่วเว่ย บักเจ็ดไหบอกให้บักร้อยเกวียน ย่างนำเข้าไปจับเอา บักร้อยเกวียน กะย่างเข้าไปในฮูจิ๊นาย ไปเห็นขาหลังมัน กะเอามือสิจับขาจิ๊นาย จิ๊นายกะเลยถีบขาอย่างแฮง ดีดโด่ง...วะนึง บักร้อยเกวียนกะเด็นปลิวออกจากฮู ลอย ฟิวววว...ไปตกไกล สามกิโล อั๊ก!!! จุกใหญ่ล่ะเว่ย.... จากนั่น บักร้อยไผ่ กะเข้าไป กำลังสิจับขา กะถืกถีบกะเด็นออกมาคือกัน ลอยปลิว ฟิววว...ไปตกไกล สองกิโล ... อั๊ก.... จุกน้อยล่ะเว่ย จากนั่น บักเจ็ดไห กะเข้าไป เตรียมโตอย่างดี พอได้ที กะโดดเข้าไปจับขาจิ๊นายไว้อย่างแน่น จิ๊นาย ดีดขานั่น ปิ่งๆ แล้ว บักเจ็ดไหกะบ่หลุดออก กะเลยเอาอีกขานึงถีบบักเจ็ดไหอย่างแฮง บักเจ็ดไหจับขาจิ๊นายไว้อย่างดี ขาจิ๊นายเลยขาดโป่ด บักเจ็ดไหกับขาจิ๊นายข้างนึง กะเลยเด็นออกจากฮู ลอยหวือออ..ไปตกไกล หนึ่งกิโล ... อั๊ก.... จุกเติบล่ะเว่ย.. บักเจ็ดไห ได้ขาจิ๊นายข้างนึงมาแล้ว กะแบกเท่อเล่อ..เท่อเล่อ ย่างไปนำ ฮ้องหาบักร้อยไผ่กับบักร้อยเกวียน ไปนำ “ บักร้อยไผ่เอ้ย...บักร้อยเกวียนเอ้ย..ๆ ๆ ๆ ” ฝ่ายบักร้อยเกวียน กับบักร้อยไผ่ กะย่างหาคือกัน ฮ้องหากันคือกัน “ เจ็ดไหเอ้ย..ร้อยไผ่เอ้ย ๆ ๆ ๆ ” “ เจ็ดไหเอ้ย..ร้อยเกวียนเอ้ย ๆ ๆ ๆ ” ในที่สุด ทั้งสามคนกะหากันพ้อ เกือบค่ำพุ่นล่ะไป๋ หิวกะหิว ได้ขาจิ๊นายขาบักใหญ่มาขานึง สิกินดิบกะบ่กล้ากิน สิจี่กิน กะบ่มีไฟ กะเลยย่างไปนำ คึดหาวิธีกินขาจิ๊นายไปนำ หาบ้านคนเฮือนคนไปนำ เผื่อว่าสิได้ขอไฟ จนย่างมาฮอดพะลานหินหม่องนึง มีเทิบหินนำเด้ ต่างคนต่างเมื่อย กะเลยตกลงกันว่า คืนนี้สิพากันพักอยู่เทิบหินหม่องหนี่ ร้อยเกวียนติดกับยักษ์ กล่าวเถิงนางยักษ์เฒ่า นมยาน ผมหงอก แข่วเกิ่กเซิ่ก ก่ากซ่าก ปานคราดคราดนา แท้เด้ .. ลูกผัวนั่น เลาบ่มีนำเขาดอก อาศัยอยู่แดนด้าว ดงกว้างผู้เดียว ว่าเด้ .. แนวกินเฒ่า คือสัตว์ป่าในดง คันมาติดกับดักเลา กะจับกิน เทิงขังไว้ ... “ บ๋าาาา...มื้อนี่ ต้องรอคอยท่า สัตว์มาติดกับดักสาก่อน” ...(แคนย่าวถะแมะ).. อยู่ในดงใกล้ ๆ หม่องที่สามพี่น้องพักอยู่หนั่น กะมีนางยักษ์เฒ่าตนนึง อาศัยอยู่ผู้เดียวเด้ ซุมื้อซุเว็น เลาบ่ค่อยออกไปไสดอก คองท่าสัตว์ป่า พวกซ้าง ม้า งัว ควาย กะปอมหลวง ฯลฯ มาติดกับดักที่เลาห้างไว้ เลากะสิจับมากินจนอิ่ม ส่วนที่เหลือกะเอาขังไว้ในกรงเหล็ก ในถ้ำ ไว้ท่ากินมื้อลุน พอใกล้ค่ำ เลากะดังไฟไว้เป็นเหยื่อล่อคนนำเด้ แล้วกะแปลงร่างเป็นยายเฒ่า ผมหงอก นมยาน เป็นตาย่านคือหยังหนิ ฮาลางเทื่อ มีคน มีนายพรานย่างหลงป่ามา เห็นแสงไฟ คึดว่าแม่นบ้านคน สิมาขอพักอาศัย สิมาถามทาง กะมักสิถืกเลาจับกินเป็นอาหาร ว่าซั่นเถาะ มื้อนี้ เลากะดังไฟไว้คือเก่านั่นล่ะ... ตอนที่สามพี่น้องกำลังคึดหาทางสิกินขาจิ๊นายอยู่หนั่น กะเหลียวเห็นแสงไฟ วับแว็บ .. วับแว็บ อยู่ไกลๆ สามคนกะดีใจอย่างขนาด สิได้ไฟมาดังจี่ขาจิ๊นายกิน บักเจ็ดไหเลยบอกให้บักร้อยเกวียน แล่นไปขอไฟ บักร้อยเกวียนแล่นกะโดดย่วย ย่วย ไปสามสี่เทื่อ กะฮอดหม่องฮั่น กะเลยหยุดแล่น ค่อยๆ ย่างเข้าไป ฮ้องถามเจ้าของบ้าน “ มีไผอยู่บ่..มีไผอยู่บ่ ” “ กู๊ก...แมนหยังน้อ... แมนผู้ได๋มาน้อ ” ( อ่านเสียงคือยายเฒ่าแหน่ล่ะ) ยายยักษ์เฒ่ากะถือไม้เท้าย่างก่อมก้อย ก่อมก้อย ออกมา เอามือนึงค้ำไม้เท้าไว้ เอาอีกมือนึงกั้งโกบ เหลียวเบิ่ง บักร้อยเกวียน คันสิเอ่ยปากขอไฟเลย กะอยากอายเนาะ กะเลยถามเลียบๆ เคียงๆ สาก่อน “ แม่ใหญ่ ค่ำแล้ว เดิ่กแล้ว ดังไฟไว้เฮ็ดหยังน้อ ” “ ดัง..ไว้.. สุม .. ฮิ้น .. อูด .. ยูง ..ตั้ว..หล่าเอ้ย” (อย่าลืมเสียงผู้เฒ่าเด้อ คนอ่านกะดาย) “ บ้อ แม่ใหญ่ ...หลานน้อย ขอไฟไปดังแหน่เด้อ แม่ใหญ่” “ เอ้อ เอาโลด สิเอาด้นได๋กะถือเอาโลดเด้อ ” บักร้อยเกวียน กะเลยย่างเข้าไปเลาะกองไฟ กับดักที่ยักษ์ฮ่างไว้ กะปลิวมาแต่ไสบุ๊หนิ ตกตุ๊บวะนึง บักร้อยเกวียนฮู้โตอีกเทือ กะอยู่ในกรงเหล็กแล้ว พยายามสิดิ้นออก กะออกบ่ได้ พยายามใช้แฮงที่มีทั้งเหมิด หง่างเหล็กออก กะหง่างบ่ออก ย่อนว่าเหล็กแต่ละซี่ มันใหญ่คัก แข็งแรงคัก (กะของยักษ์เนาะ) จากนั้น ยักษ์กะป่อนมือเข้าไป จับเอาบักร้อยเกวียนออกมา คือจั่งเฮาป่อนมือเข้าไปจับกบในข้องนั่นล่ะ กำแอว ..บั๊บ..ว่ะนึง..... จับออกมาแล้ว ซ้ำบ่หนำ มีการ ญิงแข่วกากซาก ใส่บักร้อยเกวียนอีกต่างหาก เด้เดียวหนิ แล้วกะเอาบักร้อยเกวียน ไปขังไว้ในกรงในถ้ำอีกทีนึง สำหรับเป็นอาหารมื้ออื่นเซ้า ...พะนะ... จากนั้น กะมานั่งสำบายใจอยู่นอกซาน คองท่าเหยื่อรายต่อไป นางยักษ์เฒ่า ดีใจอย่างใหญ่ ยิ้มย่วย ย่วย จับได้มนุษย์คน นัวคักแท้ แนวกินงาย เซ้ามื้ออื่น สิเฮ็ดแจ่วแซบๆ เอามันจ้ำหย่ำกิน ว่าเด้ ... ย่ามใจแล้ว ฮ่างกับดักไว้อีก คองท่าจับเอาซ้ำ คนน้อยรายต่อไป ซั่นแหล่ว... ร้อยไผ่ติดกับยักษ์ ฝ่ายบักเจ็ดไหท้าว บาคานคองคอยท่า บ่เห็นร้อยเกวียนกลับต่าวมา คึดห่วงน้องอยู่อ่ำล่ำ หรือว่าภัยในดงด้าว เกิดกับท้าวน้องร้อยเกวียน ซั่นบ้อ... “ บ๋า......บ่ได้การซะแล้ว ไป ไป ร้อยไผ่ โตฟ้าวไปนำหาน้อง แล้วกะขอไฟมาดังเด้อ” บักร้อยไผ่ กะเลยฟ้าวแล่นโดด ย่วย..ย่วย คราวเดียวกะไปใกล้เฮียนนางยักษ์เฒ่า แล้วกะ ค่อยๆ ยอง จอบเบิ่งไปนำ กะเห็นแต่แม่เฒ่าผู้นึง นั่งเล่นอยู่นอกซาน กะเลย ฮ้องถามว่า “ แม่ใหญ่ .. แม่ใหญ่ เห็นน้องซายข้อยย่างมาทางนี้บ่” “ บ่..บ่. บ่เห็นผู้ได๋ดอก ” ว่าซ้าน เลาตั๋ว “ มืดแล้ว เดิ่กแล้ว แม่ใหญ่ดังไฟไว้เฮ็ดอีหยังน้อ” “ ดัง..ไว้.. สุม .. ฮิ้น .. อูด .. ยูง ..ตั้วหล่า ” ( อย่าลืมเสียงผู้เฒ่าเด้อ) “ ข้อยขอไฟไปดังจักหน่อยแหน่เด้อ แม่ใหญ่ ” “ เอ้อ..เอาโลด อยากได้ด้นได๋ กะถือเอาโลด ” บักร้อยไผ่คึดว่า ได้ไฟแล้ว กะสิไปนำหาบักร้อยเกวียน กะเลยบ่ได้ระวัง ย่างเข้าไปเลาะกองไฟ... จึ่ก !!! ???!!! ...\^_^/...!!!???!!! กรงเหล็กจักวะปลิวมาแต่ไส ตกครอบบักร้อยไผ่ไว้ คือกันกับบักร้อยเกวียนนั่นล่ะ บักร้อยไผ่กะพยายามดิ้นออก กะออกบ่ได้คือกัน ยักษ์กะมาจับเอาไปขังไว้ในกรงเหล็กในถ้ำ เรียบร้อยแล้ว กะมาฮ่างกับดักไว้อีก แล้วกะนั่งท่าอยู่นอกซานคือเก่า นางยักษ์เฒ่า ดีใจบักอย่างใหญ่ หัวย่าม..ย่าม จับได้มนุษย์คน นัวคักแท้ แนวกินงายเซ้ามื้ออื่น สิเฮ็ดแจ่วแซบๆ เอามันจ้ำหย่ำกิน ว่าเด้... ย่ามใจแล้ว ฮ่างกับดักไว้อีก คองท่าจับเอาซ้ำ คนน้อยรายต่อไป ซั่นแหล่ว.. เจ็ดไหปราบยักษ์ ฝ่ายบักเจ็ดไหท้าว บาคานคองคอยท่า บ่เห็นน้องกลับต่าวมา คึดห่วงน้องอยู่อ่ำล่ำ หรือว่าภัยในดงด้าว เกิดกับท้าวน้องสองคน คักแท้... “ บ๋า......บ่ได้การซะแล้ว เฮาต้องฟ้าว ออกไปนำหา สาก่อน” ... ว่าแล้ว เจ็ดไหกะฟ้าวแล่นโดด ย่วย..ย่วย คราวเดียวกะไปฮอดเฮียนยักษ์ กะทำท่าฮ้องถามว่า “ แม่ใหญ่..แม่ใหญ่ เห็นน้องสองคนของข้อยมาทางนี้บ่” “ จักเหลว...แม่ใหญ่บ่เห็นเดิก ” ตั๋วอีก เลากะดาย “ มืดแล้ว เดิ่กแล้ว แม่ใหญ่ ดังไฟไว้เฮ็ดหยังน้อ” “ .. สุม..ฮิ้น..อูด..ยูง. . ” ( เสียงผู้เฒ่าเด้อ อย่าลืม) “ ขอไฟไปดังแหน่เด้อ แม่ใหญ่ ” “ เอาโลด หล่าเอ้ย .. อยากได้ด้นได๋..กะถือเอาโลด” บักเจ็ดไห คึดว่า ต้องมีอีหยังจักอย่างผิดปกติ กะเลยค่อยๆ ย่างเข้าไปอย่างระมัดระวังเด้.. บัดนั่น..กะได้ยินเสียง วืดดดดด ... ตากะเห็นเงาดำๆ ปลิวมาอย่างเร็ว คึดสิโดดหลบหนีกะบ่ทันการซะแล้ว กะเลยยืนนิ่งๆ อยู่เสยๆ จึ่ก!!! เสียงกรงเหล็กตกครอบบักเจ็ดไหไว้... บักเจ็ดไห กะยังยืนนิ่งๆ อยู่คือเก่า บ่ได้ดิ้นรน แล้วกะบ่ลองหง่างเหล็กเบิ่งเลย ยืนคองท่าว่าต่อไปสิเกิดหยังขึ้น อย่างใจเย็น ยักษ์เฒ่า กะหัวเตอะหัวเติ่น “ มึงหลงกลกูอีกแล้ว คนน้อยเอ๋ย ” ย่างก้อย ก้อย ลงมาจากนอกซาน แล้วกะแปลงร่างคืนเป็นยักษ์ ป่อนมือเข้ามาสิจับแอวบักเจ็ดไห บักเจ็ดไหกะยอมให้จับแต่โดยดี บ่ดิ้นขัดขืนจักเม็ดจักเมียง จับได้แล้ว กะเอาออกมาจากกรงเหล็ก เลียปากจั๊บ ๆ แล้วกะ ญิ่งแข่วก๊ากซาก ใส่บักเจ็ดไห “ แซบคัก ๆ มื้ออื่นเซ้า แซบคัก ๆ" บักเจ็ดไหกะเลยเอามือหักนิ้วยักษ์ดัง เปาะ ว่ะนึง นิ้วยักษ์หัก เลาเจ็บกะเลยฟ้าวปล่อยมือถิ่มบักเจ็ดไหลง บักเจ็ดไหหลุดออกแล้ว กะโดดเอากำปั้นตุ้ยท้องยักษ์ ตีคางยักษ์ แล้วกะเกิดการต่อสู้กันอย่างชุลมุน ตุ๊บ..ตั๊บ ตุ๊บ..ตั๊บ..มะลึ่งตึ่งตั่ง..มะลึ่งตึ่งตั่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ( เสียงต่อสู้กันเด้อหนิ) ในที่สุด ยักษ์กะสู้บ่ไหว ยอมแพ้บักเจ็ดไห นั่งค่อม่อ ยกมือไหว้จ้อก้อ “ โอ้ย..โอ้ย..ยอมแล้ว ยอมแล่ว ยอมแพ้แล้ว..อย่าตีแม่ใหญ่เถาะ อย่าฆ่าแม่ใหญ่เด้อ ไว้ชีวิตแม่ใหญ่แหน่เด้อ หล่าเอ้ย” “ บอกมาตามตรงเด้อ น้องสองคนข้อยอยู่ไส คันบ่ได้น้องข้อยคืน เจ้าต้องตาย” บักเจ็ดไหว่า ยักษ์กะเลยพาบักเจ็ดไห ไปหาน้องสองคน แล้วกะปล่อยออกมา ยักษ์ยอมแพ้ แล้วกะขอเป็นลูกน้องของเจ็ดไห บอกว่ามีอีหยังให้รับใช้กะบอกมาได้ บ่ต้องเกรงใจ ซ่อยได้กะสิซ่อยเต็มที่ ว่าซั่น แล้วกะเอาสัตว์ป่าที่จับไว้ได้ มาฆ่าย่างให้ สามพี่น้องกิน ของวิเศษจากยักษ์ สามพี่น้อง สำราญคักยุ ได้กินลาบกะปอมท้าง นางยักษ์เฒ่าเฮ็ดสู่กิน นัวคักแท้ ย่างซิ่นต่อนงัวกะทิง ซิ้นมันพ่อยเอาคัก หย่ำแซบดีเหลือฮ้าย ขาจิ๊นายนั่นจี่สุกหอมฮวย เอาแจ่วนัวใส่ถ้วย แล้วกะต้วยแจ่วนัว ซั่นเด้ ..แซบ แซบ... คืนนั้น สามพี่น้องกะพักอยู่เฮียนยักษ์ แล้วกะอิ่มหนำสำราญกับอาหารที่ยักษ์หามาต้อนรับ นอนหลับพุงกาง พุ่นล่ะไป๋... ตื่นเซ้ามา กะสวยเติบล่ะว๋า ยักษ์กะหาอาหารมาเตรียมไว้ให้อย่างดี สามพี่น้องแล้วงายแล้ว กะถามยักษ์ว่า สิออกจากดงนี้ สิย่างไปทางได๋ ยักษ์กะแนะนำให้ แล้วกะเอาของวิเศษ 3 อย่างมามอบให้คือ หินไฟ มีดโต้ กับ หนังสะติ๊ก เอาหินไฟ ให้บักร้อยเกวียน แล้วกะบอกว่า “ หินไฟนี้ บ่แมนหินไฟธรรมดาเด้ ไฟที่ได้จากหินนี้ อยากให้ดับมอดตอนได๋กะได้ คันบ่อยากให้มอด มันกะบ่มอด โดยบ่ต้องหาฟืนมาตื่มเลย แต่ว่าต้องมีคาถากำกับเด้อ” จากนั้นกะสอนคาถาสำหรับใช้หินไฟ ให้บักร้อยเกวียน บักร้อยเกวียนจะทดลองเสกไฟ ให้ติด ให้มอด อยู่หนั่นล่ะ จนชำนาญ เอามีดโต้ ให้บักร้อยไผ่ แล้วกะบอกว่า “ มีดโต้เล่มนี้ บ่แมนมีดโต้ธรรมดาเด้ เสกให้มันเล่มน้อยกะได้ เล่มใหญ่กะได้ ให้เล่มส่ำได๋กะได้ เรื่องคมมันนี่กะบ่ต้องห่วง ฟันเหล็กใหญ่ๆ ได้ขาดจุ่ด จุ่ด พุ่นเด้” จากนั้น กะสอนคาถาสำหรับใช้มีดโต้ ให้บักร้อยไผ่ บักร้อยไผ่กะทดลองเสกมีดโต้ให้เล่มน้อย เล่มใหญ่ แล้วกะลองฟันซี่กรงเหล็กใหญ่ กะขาดจุ่ด ปานฟันหยวกกล้วยเอาโลด เอาหนังสะติ๊ก ให้บักเจ็ดไห แล้วกะบอกว่า “ หนังสะติ๊กนี้ บ่แมนหนังสะติ๊กธรรมดาเด้ เสกให้มันใหญ่กะได้ น้อยกะได้ กำหนดพลังในการยิงกะได้ ว่าสิเอายิงแฮงส่ำได๋ ไปไกลส่ำได๋ ต้องการสิยิงอีหยัง บ่มีพลาดเป้า แม่นคัก กะมีแต่เจ้าท่อนั่นล่ะเจ็ดไหเอ้ย ที่สามารถสิหยืดหนังสะติ๊กนี่ออกยิงได้ เพราะว่าเจ้าแฮงหลายก่อหมู่” จากนั้น กะสอนคาถาสำหรับใช้หนังสะติ๊ก ให้บักเจ็ดไห บักเจ็ดไหกะทดลองเสกหนังสะติ๊ก ให้น้อย ให้ใหญ่ ลองหยืดยิงตามพลังที่ต้องการจนช่ำชอง นางยักษ์เฒ่า เป็นคนใหม่ผู้ใจดี ทรัพย์สมบัติที่เลามี กะเอามาโชว์อ้าง สามอย่างแท้ สิ่งดีของวิเศษ นำมามอบให้ท้าว บาคานน้อยผู้ล่ะอัน นั่นแหล่ว... ร้อยเกวียนท้าว ได้รับ หินเสกไฟ ส่วนร้อยไผ่ กะได้ มีดอีโต้ เจ็ดไหท้าว ผู้แฮงหลายเลิศหมู่ ได้สมบัติควรคู่ แฮงท้าว เป็น หนังสะติ๊ก .. (ฮ่วย สำหมะจบจุ่ดปุ่ดจั่งซี้) หลังจากต่างคนต่างช่ำชอง ในของวิเศษของจะของแล้ว กะได้ลานางยักษ์เฒ่าเดินทางผจญภัยต่อไป ซั่นแหล่ว... ในช่วงที่อยู่ในป่านั่น ทั้งสามคนกะบ่ลำบากอีก ย่อนว่าสัตว์ป่ากะหลาย หมากไม้กะหลาย แนวกินเลยบ่อึดบ่อยาก บักเจ็ดไห เอาหนังสะติ๊กยิงสัตว์ป่าให้มันตายแล้ว บักร้อยไผ่ กะเอามีดโต้ปาดซี้นออก เอามาปิ้งย่างไฟที่ บักร้อยเกวียน เสกดังขึ้น สุกแล้วกะแจกกันกิน จนอิ่มหนำสำราญ ยามสินอนตอนกลางคืน บักร้อยไผ่ กะเอามีดโต้ถางอุ่มไม้ออกเป็นเวิงกว้างๆ บักเจ็ดไห กะเอาหนังสะติ๊กปักดิน เสกให้ใหญ่ขึ้น ให้ผ้าลอง (หม่องใส่ลูกกะสุนนั่นล่ะ) เป็นหลังคากันหมอก กันน้ำค้าง จากนั้น บักร้อยเกวียน กะเสกไฟให้ลุกอ้อมเป็นวงบ่ให้ดับตลอดคืน สัตว์ร้ายเห็นไฟกะบ่กล้ามารบกวน นอนกะเลยหลับแซบ...ซั่นตี้ล่ะ ข้วมแม่น้ำใหญ่ในดงดิบ สามพี่น้อง เดินดั้นดงดิบ ตามทิศทางนางยักษ์สอน พเนจรไปเรื่อย ค่ำหม่องได๋ นอนหม่องฮั่น ล่วงลุเข้าหลายวัน จ้อจั้นใกล้ม่อ ฮอดเลาะฮิมดงด้าว บาคานท้าวใกล้โล่งใจ นั่นเยอ ท้าวเหลียวเห็นแม่น้ำ กว้างใหญ่ไกลหลาย ตรงตามคำทำนาย ที่ยักษ์ทายบอกไว้ สาแล้ว.. สามพี่น้องเดินทางมาฮอดแม่น้ำบักใหญ่เหลียวเบิ่งมันกว้างเป็นกิโล นางยักษ์บอกไว้ว่า คันไปฮอดแม่น้ำใหญ่ ให้พากันข้วมแม่น้ำไป เด้อ นั่นหนา ทั้งสามคน กะเลยคิดหาวิธีข้วมน้ำ ซั่นแหล่ว...คันสิลอยข้วมไป กะไกลคักโพดเว่ย บ่เป็นตาไหว..... คันสิโดดข้วมไปกะจักวะสิข้วมหรือบ่ข้วม เอ้า...ในเมื่อบ่ฮู้ กะต้องลองสาก่อน นั่นแหล่ว แล้วทั้งสามคนกะถอยไปตั้งหลัก แล่นอย่างหัน โดดโด่ง ลอย ฟิวววว.... ต้าม!!...ต้าม!!.....ต้าม!! บักร้อยเกวียน ตกฮอดบ่ได้เคิงแม่น้ำจ้อย กะเลยลอยน้ำกลับเข้าฝั่ง บักร้อยไผ่ กะตกประมาณบ่เคิงแม่น้ำคือกัน แต่ว่าไกลก่อบักร้อยเกวียนจักหน่อย กะลอยน้ำกลับเข้าฝั่งคือกัน บักเจ็ดไห ตกประมาณเคิงแม่น้ำ คันสิลอยน้ำต่อ ไปฝั่งทางพุ่นกะได้ยุ แต่ว่าเป็นห่วงน้อง เห็นน้องสองคนลอยกลับ กะเลยลอยกลับคือกัน พอสามคนมารวมกันอีก กะคึดหาวิธีสิข้วมน้ำอย่างง่ายๆ โดยบ่ต้องเสียเวลาเฮ็ดเรือ เฮ็ดแพ.... ในที่สุดบักเจ็ดไหกะคึดออก … บักเจ็ดไห เสกหนังสะติ๊กให้ใหญ่ขึ้น แล้วกะเอาบักร้อยไผ่ แทนลูกกะสุน หยืดหนังสะติ๊กยิงออกไป ก๋าให้บักร้อยไผ่ตกน้ำ อยู่เลาะตอฝั่งทางพุ้น เพราะว่าคันยิงไปแฮงๆ กว่านี้ บักร้อยไผ่ตกลงดินมันกะสิเจ็บนั่นหนา จากนั่น กะเอาบักร้อยเกวียนมายิงไปคือกัน สองคนนั่น ตกลงน้ำแล้วกะลอยน้ำขึ้นฝั่งได้อย่างสบาย บักเจ็ดไห หลังจากยิงหนังสะติ๊กส่งน้องสองคนข้วมฝั่งได้แล้ว มันกะเสกให้หนังสะติ๊กน้อยลงคือเก่า เอาคล้องคอไว้แล้ว กะถอยไปตั้งหลักไกลกว่าเก่า แล้วกะแล่นอย่างหัน พอได้จังหวะกะโดดโด่ง ฟิววว...... ต้าม.. ตกลงเลยเคิงแม่น้ำไปอีก โดดได้ไกลก่อเก่าเด้เลากะดาย จากนั้นกะลอยน้ำข้วมไปฝั่งพุ้นได้สำเร็จ ไปนั่งเซาเมื่อย อยู่รวมกับบักร้อยไผ่กับบักร้อยเกวียน.. จับปลาแม่น้ำ สามบาคานท้าว อาศัยของวิเศษ ข้วมแม่น้ำได้สำเร็จ พากันเซาพักเมื่อย หายล้าแล้ว สามท้าว กะเดินทาง ต่อไป สาแหล่ว... พักเซาเมื่อยแล้ว สามคนกะออกย่างต่อไปเรื่อยๆ ค่ำไสนอนฮั่น รอนแรมอยู่กลางป่า โฮ้...ดนเติบอยู่ล่ะว๋า... เผชิญภัยอันตรายหลายๆ รูปแบบ สามพี่น้องกะผ่านพ้นมาได้ซุเทื่อ ย่อน กำลังของจะของเองนำ ย่อนของวิเศษจากยักษ์นำ ย่อนผู้เว้า(คือผู้ข่านี้เอง) บ่แต่งให้ได้รับอันตรายนำ กะเลยพากันอยู่รอดปลอดภัย... เอาล่ะ เว้าไปหลายมันกะลายทำท่าย เปิดอุ่มไม้... เอ๊อะ!!! โฮ้...อุ่มเล็บแมวตั้วหนิ หนามเล็บแมวปักมือ เจ็บๆ ... เอาใหม่เนาะ บ่ต้องเปิดอุ่มไม้ดอกเนาะ เดี๋ยวสิถืกหนามปักอีก... เอาล่ะ เว้าไปมันกะลายทำท่าย เว้าย่อๆ พอได้ใจความ ดีก่อเนาะ (เดี๋ยวผู้ฟังสิหลับก่อนว๋า) บาดนี้กะขอย่อนลัดตัดตอน มาเถิงตอนที่ สามพี่น้องออกจากป่าดงดิบได้ กะเดินทางมาเถิง แม่น้ำหม่องนึง แม่น้ำสายนี้ ไหลมาจากภูเขาใหญ่ในป่าดงดิบนั่นล่ะ เป็นแม่น้ำสายสำคัญของชาวบ้านชาวเมืองเด้ สามคนกะย่างเลียบลำน้ำไปเรื่อยๆ หิวข้าวติ้อีตาทีเนียะ... หมากไม้กะบ่มีซั่มแหม แถวนี่กะดาย กะคึดว่า ในแม่น้ำมันต้องมีปลา หาจับปลาแม่น้ำมาปิ้ง ย่างกิน ดีกั่ว... ทีแรกบักเจ็ดไห กะเอาหนังสะติ๊กนั่นล่ะยิง ถ้าเป็นหนังสะติ๊กธรรมดา ยิงลงน้ำ ลูกกะสุนกะสิไปถืกผิวน้ำ มันกะสิดังจุ๋ม แล้วกะเฉเลี้ยวออกไปทางอื่นเด้เนาะ แต่ว่านี่เป็นหนังสะติ๊กวิเศษ ยิงได้แม่นคัก อยากให้ถืกปลาโตได๋ต้องถืก ทีแรกบักเจ็ดไหกะใช้วิธีนี้ล่ะ แต่ว่ากว่าสิเห็นปลาแต่ล่ะโตกะตั้งว่ะโดนเว่ย คันเห็นกะยิงถืกยู้ มันผัดเหลียวบ่ค่อยเห็นโตปลาหนิตี้... นี่ล่ะคือปัญหา...ซัวสิได้แต่ละโต มันบ่แม่นของค่อยแหล่ว ดนเติบล่ะเว่ย ไฟดะดังไว้ท่าแล้ว พอหาได้แต่ละโตกะเอามาปิ้งจี่กิน จับปลาแบบนี้อยู่เคิงมื้อ กะบ่ได้เคิ่งท้องญ่อน บักเจ็ดไหเลยว่า “ จับแบบนี้มันได้เทื่อละหน่อย เฮามาจับแบบใหม่เถาะเว่ย เอามันเทื่อละหลายๆ” แล้วมันกะบอกวิธีการให้อีกสองคนฟัง พอเข้าใจวิธีการแล้ว บักร้อยไผ ่กะเอามีดอีโต้ที่ได้มาจากยักษ์ ไปตัดต้นไม้ใหญ่บักหลายต้นฟันเฉียงๆ หม่องโคนกกไม้ ฟับ ต้นไม้ใหญ่กะขาด จุ่ด ล้มลง ตัดปลาย ลิง่าออกดีๆ แล้ว บักร้อยเกวียน กะแบกขนมากองไว้ริมแม่น้ำ ให้บักเจ็ดไหจัดการต่อ บักเจ็ดไห เสกหนังสะติ๊ก ให้ใหญ่ขึ้นอย่างคัก เอาต้นไม้ที่บักร้อยเกวียนแบกมา เฮ็ดเป็นลูกกะสุนหนังสะติ๊ก เด้...... เลาสิยิงอีหยังล่ะหือ???? จากนั้น บักเจ็ดไห กะตั้งใจ กำหนดเป้าหมาย กำหนดทิศทาง กำหนดพลัง ในการยิง ร่ายคาถากำกับเรียบร้อย กะยิงลูกกะสุนต้นไม้ใหญ่ขึ้นฟ้า ต้นไม้ใหญ่ ลอยขึ้นฟ้าแล้ว กะอ่วยทางแหลม ลงมา ตกลง ตรงๆ ปักลงแม่น้ำ ทะลุลงดินในแม่น้ำ ตั้งเป็นหลักเสาเที่ยงที่ลี่ เอาโลด เฮ็ดจั่งซี้ล่ะ ไปเรื่อย ๆ จนได้เสาเต็ม กั้นแม่น้ำไว้ ระยะห่างระหว่างเสาแต่ละต้น กะจ่งป่องไว้หน่อยๆ พอให้น้ำไหลผ่านไปได้ ปลาโตน้อยๆ กะลอดไปได้ ส่วนปลาโตใหญ่ๆ ลอดผ่านไปบ่ได้ ขั้นตอนที่หนึ่งเสร็จเรียบร้อย จากนั้น บักร้อยไผ่ กะย่างขึ้นไปทางเหนือน้ำ ยืนอยู่ตอฝั่งน้ำ เอามีดโต้เลา วางทางคมลงน้ำ แล้วกะเสกมีดโต้ให้เล่มใหญ่ขึ้น ขวางกั้นน้ำไว้ บ่ให้ไหลลงไปทางล่าง เด้ พอน้ำไหลลงไปบ่ได้ น้ำที่อยู่ทางล่างแห้งแหล่วเว่ย ปลากะไหลไปติดเสาต้นไม้ทางล่าง เฮ็ดกองโจ้โก้ ดิ้นด่งเด่ง ด่งเด่ง หลายบักอย่างคัก .....ทั้งสามคน กะซ่อยกันไปจับเอาปลา ขึ้นมาจนเหมิด ได้หลายอย่างคัก ประมาณเป็นสิบๆ เกวียนพุ่นล่ะมั้ง... (บ่แมนเว้าโพดเว้าโพ เด้พี่น้องเอ๋ย เว้านิทานคักๆ นี่ล่ะ) โฮ้..วิธีการของบักเจ็ดไหหนิ ดีคัก จับเทียเดียว ได้บักหลาย จับแล้วแล้ว บักร้อยไผ่ กะไปเสกมีดโต้คืนเป็นเล่มธรรมดา ปล่อยให้น้ำไหลลงมาคือเก่า ปลากะไหลมานำน้ำ มาข่อน แข่นอั้นตั้น อยู่เสาทางล่าง กะเฮ็ดคือเก่า แล้วกะลงไปจับเอาอีก เฮ็ดไปเฮ็ดมาอยู่จั่งซี้ล่ะ ปลาที่จับได้กะหลายขึ้นหลายขึ้น เฮ็ดกองโจ้โก้ เด้ ทั้งสามคนกะเอาใบตองใบใหญ่ๆ มาปูดิน แล้วกะเอาปลามากองจุ้มกุ้ม ก๋าประมาณอิ่มกันสามคนนั่นล่ะ จากนั้นกะเอาใบตอง มาปิดคลุมไว้ทางเทิงอีก แล้วกะพากันเอาดินมาโอบไว้ เฮ็ดคือสิเผาถ่านนั่นหนา แล้วแล้ว กะเอาใบไม้แห้งมาสุมกองทับไว้ กะจุดไฟจากหินไฟวิเศษซั่นตี่ล่ะ ใบไม้หน่อยๆ แต่ว่าบ่มอดง่าย เพราะคาถาบ่ให้มอดนั่นเอง... ก๋าประมาณว่าสุก กะเสกให้ไฟดับ แล้วกะไปควดขี้ดินออก เปิดใบตองออก กะเอาปลาที่สุก หอมฮ่วย ฮ่วย มากัดกินอย่างแซบ ซั่นแหล่ว ปลาแลกข้าว บาคานน้อย สามคน พร้อมพร่ำ นั่งกินปลาแซบๆ หอมกุ้มกลิ่นดิน อิ่มท้องแล้ว พากันนอนพักผ่อน กรนต่อด ต่อด หลับญ่อนเมื่อยหลาย นอนตื่นขึ้น เตรียมหมกปลา ไว้กินต่อ แล้วก็หาแล่นเล่น โลดเต้นขี้ดินทราย ตีลังกาหน้า ลังกาหลัง ก้นขี้ทั่ง ม่วน ม่วนแท้ ลอยเล่น น้ำไหล บางพ่องปีนยอดไม้ ขึ้นไต่ เล่นหนอน ตีลังกาลงมา หัวสักลงยังน้ำ โดดต้าม ต้าม น้ำกระเซ็นแตกพ๊าก เสียงหัวร่อก่าก ก่าก พากันเล่น ม่วนกัน นั่นน้อ... สามพี่น้อง กินอิ่มแล้ว หนังท้องตึง หนังตากะยาน กะเลยพากันนอนพักผ่อน หลับกรนต่อดๆ เด้...พอนอนตื่นแล้ว กะพากันเอาปลาที่เหลือ อีกส่วนนึง ไปเฮ็ดคือเก่านั่นล่ะ เผาเตรียมไว้กินแลง นั่นหนา จากนั้นกะพากันไปเล่นน้ำ เล่นขี้ดินทราย เล่นหนอน กันอย่างม่วนซื่น โฮแซว ตามปะสาเด็กน้อย น้อ.....เล่นแล้ว กะมากินปลาต่อ ค่ำแล้วกะนอน... มื้อลุนมากะกินปลาคือเก่า ปลาเหมิดแล้ว กะใช้วิธีการแบบเก่า ไปจับปลามาเฮ็ดอยู่เฮ็ดกิน เด้ ต่อมาบ่ดน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ทางใต้น้ำ พากันเดือดฮ้อนญ่อนหาปลาบ่ได้ เทิงน้ำขาดหายเป็นช่วงๆ กะสงสัยว่า ปลาเคยหลายๆ มันไปไสเหมิด หรือว่ามันเกิดเหตุอาเพทอีหยัง หรือว่า น้ำมันไปท่วมฟ้า ปลามันแล่นไปกินดาวกันเหมิด บ้อน้อ... บางพวก หาปลาอยู่ทางลุ่มบ่ได้ กะค่อยๆ ย่างเลียบเลาะแม่น้ำขึ้นมา หาปลาหม่องใหม่ ย่างมาเรื่อยๆ จนมาเห็น วิธีการของสามคน พวกคนหาปลา เห็นปลากองโจ้โก้อยู่ กะออกปากขอ พวกบักเจ็ดไหเลยบอกว่า คันอยากได้ปลา กะให้เอาข้าวสาร หรือว่าเกลือ หรือว่าพริก มาแลกเอาเด้อ แลกแบบง่ายๆ ...คุต่อคุ... ...ต่าต่อต่า... ...เกวียนต่อเกวียน... เลยว่านเถาะไป๋ ชาวบ้าน กะเลยพากันเอาข้าว เอาพริก เอาเกลือ เอาน้ำอ้อย ฯลฯ มาแลกปลา ว่าซั่นเถาะ พวกบักเจ็ดไห เห็นว่า อยู่หม่องนี้ มันกะใกล้เมืองแล้ว กะเลยตัดสินใจ เฮ็ดกระท่อม อยู่ฮิมแม่น้ำ พักอาศัยอยู่หม่องนั่น หาปลา แลกข้าว แลกของ กับชาวบ้าน จากนั้นมา พวกชาวบ้าน กะไปมาหาสู่กับพวกบักเจ็ดไหเรื่อยๆ ข่าวกะแผ่กระจายออกไปเรื่อยๆ คนกะแฮ่งมาหาหลายขึ้นๆ เด้เดียวหนิ รับราชการเป็นอำมาตย์ใหญ่ ช่วงนั้น เมืองนั้น (เมืองอีหยังกะซางเถาะเนาะ ขี้คร้านคิดชื่อ) กะมีข้าศึกมารุกรานเด้ รบกันอยู่ดนเติบ จนเมืองนั้นร่อแร่ใกล้สิแพ้แล้วล่ะไป๋ ทหารใหญ่ อำมาตย์ใหญ่ รวมเทิงทหารน้อย กะต่อสู้จนตายไปบักหลาย แทบสิบ่เหลือทหารแล้วว่าซั่นเถาะ กิตติศัพท์ชื่อเสียงทั้งสามคนกะขจรขจายออกไปติล่ะ จนไปเถิงหูพระราชา พระราชาอยากได้มาเป็นทหาร กะเลยให้เสนาอำมาตย์ไปเชิญมาเข้าเฝ้า ให้แสดงฝีมือ ความสามารถให้เบิ่ง บักเจ็ดหวดเจ็ดไห บักร้อยไผ่ บักร้อยเกวียน กะพากันแสดงความสามารถแบบเบาะๆ.. ให้พระราชา เทิงเสนาอำมาตย์เบิ่ง พระราชาพอใจแล้ว กะแต่งตั้งให้เป็นทหารเอกทั้งสามคน แล้วกะแต่งตั้งให้นำทัพออกรบ เด้ บักเจ็ดไห ให้ทหารเอาดินเหนียว มาหล่อ ลูกหล่อ ใหญ่ ไว้บักหลาย บักร้อยไผ่ เอามีดโต้ใหญ่ไปขุดงัดดินเหนียว ขึ้นมาให้ทหารหล่อลูกหล่อ เทิงไปตัดไม้ไผ่ ลากกอไผ่มา ให้ทหารเฮ็ดลูกธนูติดขี้ซี บักร้อยเกวียน กะให้ทหารเตรียมก้อน ขี้ซี ขี้ไต้ ก้อนน้อยๆ มัดไว้กับปลายธนู (พอเป็นเชื้อไฟ) ไว้บักหลายคือกัน พอเตรียมของ เตรียมโตเรียบร้อยเหมิดแล้ว กะพากันขนอาวุธ ซึ่งกะคือ ลูกกะสุนดินเหนียว กับ ลูกธนูติดขี้ซี ไปกองย่ายไว้หม่องสนามรบ ยกกองทัพเตรียมโตรบกับข้าศึก เด้ การสู้กันเทื่อนี้ เป็นการต่อสู้ระยะไกล บ่ได้เข้าประชิดโตคือเทื่อก่อนๆ เพราะว่าอาวุธบ่แมนหอก บ่แมนดาบ เด้ บักเจ็ดไห กะเอาหนังสะติ๊กยักษ์ มาระดมยิงลูกกระสุนใหญ่ ไปใส่ค่ายของข้าศึก ตก ป๊ก..เป็ก..ป๊ก..เป็ก .. ตกถืกหลังคาค่าย ค่ายกะพังมุ่นอ่าย่ะ ตกถืกซ้าง ซ้างกะหัวแตกตาย ท้องแตกตาย ตกถืกทหาร ทหารกะตาย ส่วนพลธนู กะเอาธนูมาต่อไฟจากบักร้อยเกวียน แล้วระดมยิงใส่ค่ายของข้าศึก ตกถืกค่าย ค่ายกะลุกไหม้ ตกถืกทหาร เสื้อผ้าทหารกะไหม้ พอไหม้กะแล่นไปทั่วทีปทั่วแดน แฮ่งเอาไฟไปไหม้หม่องอื่นอีกเรื่อยๆ เด้เดียวหนิ ข้าศึกส่วนนึง กล้าหาญ สมเป็นทหารกล้า ควบม้า กะมี แล่นเอากะมี พากันแล่นมาทางกองทัพของพวกบักเจ็ดไห ก๋าว่าสิเข้าต่อสู้แบบประชิดโตเด้ บักร้อยไผ่ เห็นจั่งซั่น กะเอามีดโต้ฟันไว้ดิน พอพวกข้าศึกแล่นเข้ามาใกล้ๆ มีดโต้ กะเสกให้มีดโต้ใหญ่ขึ้น กลายเป็นกำแพงเหล็กบักใหญ่นึงเอาโลด ขวางข้าศึกไว้ พอข้าศึกมารวมกันอยู่ตีนกำแพงมีดโต้เหมิด บักร้อยไผ่กะซุกมีดโต้ ให้ล้มลงทับทหารข้าศึก แบนแต๊ดแต๋ ขี้แปแลบแซบ เลยนั่นแหล่ว ... บ่ดน ข้าศึกกะแตกกระจายหนีกระเจิง ยอมแพ้ในที่สุด ….. หลังจากรบชนะข้าศึกแล้ว พระราชาเห็นความดีความชอบ กะแต่งตั้งให้เป็นเสนาอำมาตย์ใหญ่ ทั้งๆ ที่ บักเจ็ดไห บักร้อยไผ่ กับบักร้อยเกวียน ยังบ่ทันได้ใหญ่เป็นหนุ่มจ้อย หม่องจบ ทั้งสามคน ได้เป็นเสนาอำมาตย์ใหญ่ ได้บ้านอยู่หลังบักใหญ่ มีคนรับใช้หลายๆ ได้ดีมีสุขแล้ว กะคึดฮอดพ่อแม่ กะเลยเดินทางกลับบ้าน ไปฮับพ่อแม่มาอยู่นำกัน อย่างมีความสุข ทั้งสามคน ถึงสิกินหลาย กินโผ่ กินโป่ม มันกะได้ใช้ประโยชน์จากแฮงที่หลายๆ ของมัน ช่อยเหลือชาวบ้านชาวเมืองอยู่บ่ได้ขาด จนชาวบ้านชาวเมือง พากันฮักกันหอมคือหยังหนิตั้ว นี่ล่ะ การออกไปเผชิญกับโลกภายนอก ผจญภัยในชีวิตตามลำพังเจ้าของ มันกะเฮ็ดให้ได้ประสบการณ์หลายๆ ตั้ว เพิ่นจั่งว่า “...คันบ่ออกจากบ้าน บ่เห็นด่านแดนไกล คันบ่ไปหาเฮียน กะบ่มีความฮู้ เจ็ดไหท้าว ทั้งร้อยไผ่ ร้อยเกวียน ออกจากเฮือนไปหาเฮียน ต่างแดนดินด้าว คำว่า ‘ เฮียน เฮียน ' นี่ บ่ได้หมายความแค่ โตหนังสือเขียนอ่าน ประสบการณ์ ที่พบพ้อ คือความฮู้ ต้องฮ่ำเฮียน เอาเด้อ หล่าเอ้ย...” เอาล่ะเว้าไปหลายกะยาวไปซือๆ จบซั่มนี้ดีกั่ว..เนาะ.. เดิ่กแล้ว หมอลำกลอนลำอ่อม ๆ แล้ว... ไป ไป ฟ้าวพากันไปหลับไปนอนสาเด้อ... อย่าลืมไหว้หัวบ่อนเด้อล่ะ.. แล้วกะอย่าพากันเยี่ยวใส่บ่อนเด้อล่ะ.. ขอขอบคุณที่มาของนินาน ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย http://www.isan.clubs.chula.ac.th/nitan/index.php?transaction=hai01.php 7Hai.txt